นับว่าไม่ค่อยจะได้เห็นบทบาทแบบนี้สักเท่าไหร่จากนักแสดงมากฝีมืออย่าง “Mark Wahlberg” นี่น่าจะเป็นภาพยนต์แนวดราม่าที่เขาต้องแบกรับเอาไว้ทั้งเรื่องให้อยู่หมัด นี่คือภาพยนต์เรื่อง Joe Bell (2021) หรือชื่อไทยว่า ด้วยรักจากใจพ่อ ภาพยนต์ที่อ้างอิงสร้างมาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงและกลายเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนสังคมเกี่ยวกับประเด็นการกลั่นแกล้งในรั้วโรงเรียนและสังคม กับปณิธานยิ่งใหญ่ในการออกเดินทางข้ามประเทศ เพื่อถ่ายทอดความเจ็บปวดของการบูลลี่
Joe Bell ภาพยนต์เรื่องนี้นั้นสร้างมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในเมืองเล็กๆ ในรัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา โจ เบลล์ (รับบทโดย Mark Wahlberg) คุณพ่อที่แสนจะธรรมดาๆ ที่ตัดสินใจออกเดินทางข้ามประเทศ ออกไปพบปะสังคมทั้งแผ่นดินอเมริกา เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ในการต่อต้านพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง หลังจากที่ลูกชาย (รับบทโดย Reid Miller) ของเขาเองนั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำดังกล่าวภายในรั้วโรงเรียน เนื่องจากเขาเป็นเกย์ และไปสู่ปลายทางแห่งโศกนาฏกรรม และ โจ เบลล์ ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำกับใครและครอบครัวไหนอีก
ตามที่เราเองได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นว่าภาพยนต์เรื่องนี้นั้นเป็นการหยิบเอาประเด็นน่าหดหู่ใจที่เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งมาสร้างเป็นภาพยนต์ โดยสามารถขยี้และส่งสารข้อความไปถึงผู้ชมได้อย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าการเล่าเรื่องของภาพยนต์เรื่องนี้จะยังค่อนข้างไม่แสดงศักยภาพในความอิมแพคของเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากนัก นอกจากเน้นไปที่หัวอกคนเป็นพ่อและสภาพครอบครัวของผู้สูญเสียหลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้น
ภาพยนต์เรื่อง Joe Bell ได้พาเหล่าผู้ชมทุกๆคน ออกเดินทางและเดินเท้าไปพร้อมๆ กับตัวละครหลัก ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวที่ค่อยๆ ลำดับออกมาเป็นฉากและเหตุการณ์ที่นำมาสู่การขมวดปมที่เป็นไคลแม็กซ์ในแก่นเรื่องในที่สุด แน่นอนเลยว่าภาพยนต์เรื่องนี้นั้นทำหน้าที่สะท้อนสังคมได้เป็นอย่างดี แต่ดูจะยังเป็นเพียงการดำเนินในด้านที่เจ็บปวดและผลกระทบมากกว่าการเน้นย้ำเกี่ยวกับความโหดร้ายของพฤติกรรมการกลั่นแกล้งผู้อื่น
ดังนั้นจึงทำให้ภาพยนต์เรื่องนี้ Joe Bell ด้วยรักจากใจพ่อ ยังเป็นภาพยนต์แนวดราม่าเรื่องเล็กๆ ที่ยังไม่ได้มีความทรงพลังมากมายสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้แรงขับเคลื่อนจากเรื่องราวที่ค่อนข้างที่จะซาบซึ้งในตัวเองช่วยพยุงตัวภาพยนต์เอาไว้ได้ตลอดทั้งเรื่อง Mark Wahlberg ที่มักจะเล่นบทแนวบู๊ กลายเป็นที่คุ้นหน้า คุ้นตา ปรับโหมดมาเป็นคุณพ่อที่มีลูกเป็นเกย์และต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมที่ทำให้เขาต้องหันกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่งานระดับมาสเตอร์พีชของเขา แต่ก็ทำให้เห็นว่าเขามีความหลากหลายที่สามารถเล่นดราม่าหนักๆ ได้ดีอยู่เหมือนกัน
แน่นอนเลยว่าเพราะแก่นเรื่องหลังเน้นไปที่ตัวละคร โจ เบลล์ เป็นเสียส่วนใหญ่ จึงทำให้คาแรกเตอร์ของตัวละครอื่นๆ ที่อยู่ภายในภาพยนต์เรื่องนี้ถูกขับออกมาได้ไม่หนักแน่นนัก แต่กระนั้น มาร์ค วอห์เบิร์ก ก็ยังพยุงหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ด้วยตัวของเขาเองแบบสบายๆ ซึ่งก็ต้องขอบคุณโครงเรื่องที่ส่งเสริมเนื้อหาเป็นอย่างดี และน่าจะทำให้ผู้ชมประทับใจกับการแสดงและเนื้อหาของหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก และถ้าหากคุณสนใจบทความพนันอื่นๆก็สามารถคลิกเข้ามาได้ที่ สล็อต